JILGYUNGYI ARTICLE

บทความดีๆ ที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้สาวจิลยอง

อาหารกับช่วงที่มีประจำเดือน

1 ตุลาคม 2562

อาการปวดท้อง และรู้สึกไม่สบายตัวเมื่อมีประจำเดือน ทำให้ผู้หญิงอย่างเราทุกข์ทรมานและแทบไม่อยากลุกขึ้นจากเตียง แต่รู้ไหมคะว่าการทานอาหารบางอย่างสามารถช่วยลดความเจ็บปวด, อาการท้องอืด, ตัวบวม แขนขาบวม และความแปรปรวนของอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้ เดี๋ยวเราไปดูกันค่ะว่าอาหารที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง

 

อาหารที่ควรรับประทานในช่วงที่มีประจำเดือน

ได้แก่

 

ปลาแซลมอน

แซลมอน เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3 fatty acids) ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และลดอาการอักเสบ (Anti-inflammatory) ที่สามารถช่วยคลายการบีบตัวของมดลูก (Uterus) หรือบรรเทาอาการปวด (Alleviating the cramping pains) ต่าง ๆ ได้ โดยคุณสามารถเลือกทานแซลมอลได้ทั้งแบบดิบ และสุก นอกจากคุณสมบัติข้างต้นแล้ว แซลมอนยังให้โปรตีน และ วิตามินบีสูง ที่สามารถให้พลังงานแก่ร่างกายของคุณได้ด้วยนะคะ

 

ไข่ไก่

ไข่ เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยโปรตีน, กรดไขมันจำเป็น, แร่ธาตุ และวิตามินที่มีประโยชน์หลายชนิด ซึ่งจะช่วยลดอาการปวด และสร้างพลังงานทดแทนในส่วนที่สูญเสียไปได้ แนะนำให้กินไข่ทุกวันช่วงมีประจำเดือน แต่ไม่ควรกินไข่ลวก (Hard-boiled eggs)  เพราะจะทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารและทำให้ท้องอืด (Bloating) ได้ง่าย

 

กล้วย

สำหรับบางคนที่มีอาการท้องร่วง (Diarrhea) ขณะที่มีประจำเดือน สารอาหาร เช่น แมกนีเซียม (Magnesium), โพแทสเซียม (Potassium) และเส้นใย (Fiber) ที่อยู่ในกล้วย จะช่วยเรื่องการขับถ่าย และช่วยปรับอารมณ์ให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น โดยเฉพาะ แมกนีเซียม จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้เป็นอย่างดี

 

ช็อกโกแลต (Dark chocolate)

เชื่อว่าช็อกโกแลต เป็นขนมโปรดของใครหลาย ๆ คน แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าช็อกโกแลตนั้นอุดมไปด้วยแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีความจำเป็นกับร่างกายเมื่อเกิดการสูญเสียเลือดช่วงมีประจำเดือน สามารถช่วยลดอาการปวด และช่วยเสริมการสร้างฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) ฮอร์โมนที่มีหน้าที่ช่วยให้อารมณ์ดี ลดการแปรปรวนของอารมณ์ได้เป็นอย่างดี แนะนำให้กินดาร์กช็อกโกแลต เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลปัญหาความอ้วนที่จะตามมากันนะคะ

 

ผักและผลไม้ เช่น บร็อคโคลี (Broccoli), พืชตระกูลส้ม (Citruses ), แตงโม (Watermelons) และ ดอกคาโมไมล์ (Chamomile) เป็นต้น ซึ่งมีแร่ธาตุ และวิตามินสูง

  • บร็อคโคลี ให้ธาตุเหล็ก (Iron) และเส้นใยสูง ช่วยทดแทนการสูญเสียเลือดช่วงมีประจำเดือน (Period bleeding) และลดท้องอืด
  • พืชตระกูลส้ม (Citruses ) ให้วิตามิน C, D (Vitamin C, D) และแคลเซียม (Calcium) ช่วยบรรเทาความรู้สึกวิตกกังวล หรือความกลัว ซึ่งเป็นผลมาจากการแปรปรวนของระดับฮอร์โมน แต่ไม่ควรกินในปริมาณที่มากจนเกิดไป เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร
  • แตงโม (Watermelons) มีน้ำตาลธรรมชาติซึ่งพบได้ในปริมาณมาก จะช่วยทดแทนน้ำตาล และความชุ่มชื้นที่ร่างกายสูญเสียไป ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด และจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นได้มากขึ้น
  • ชาจากดอกคาโมไมล์ ไม่เพียงช่วยให้สมองเกิดความผ่อนคลาย อีกทั้งช่วยในการคลายตัวของมดลูกด้วย ช่วยลดความเครียด และทำให้หลับสบายในช่วงที่มีประจำเดือนได้เป็นอย่างดี

 

และนี่ก็เป็นอาหารที่เราแนะนำให้ทุกคนลองไปทาน เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด และทรมานช่วงมีประจำเดือนกันนะคะ

 

สุดท้ายก่อนจากกัน ขอแนะนำเเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ ซึ่งนั่นก็คือ อาหารประเภทที่ควรหลีกเลี่ยงช่วงมีประจำเดือน ได้แก่ ขนมขบเคี้ยว ที่มีเกลือ น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตสูง, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารรสจัดทั้งหลาย เพื่อไม่ให้เกิดอาการท้องอืด, ร่างกายอ่อนเพลีย หรือตัวบวม และที่สำคัญคือ อาหารพวกนี้สามารถทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และสร้างความกลุ้มใจทิ้งไว้ให้คุณหลังผ่านช่วงมีประจำเดือนได้ด้วยนะคะ

Share บทความ :

ผลิตภัณฑ์ที่จิลยองแนะนำ

ดูผลิตภัณฑ์จิลยองทั้งหมด

บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ

โรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อโปรโตซัว (Trichomonas Vaginitis)
โรคช่องคลอดอักแสบจากเชื้อโปรโตซัว (Trichomonas vaginitis/ TV) หรือโรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อพยาธิ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
วิธีรักษาความสมดุลของช่องคลอด
เมื่อทราบความสำคัญของความสมดุล หรือ pH Balance ของช่องคลอดกันแล้ว สิ่งที่ผู้หญิงอย่างเราควรรู้ต่อไป คือ วิธีรักษาความสมดุลนั้นให้คงอยู่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีและความแข็งแรงของช่องคลอด
โรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา (Vulvovaginal Candidiasis)
เชื่อว่าผู้หญิงทุกคน ต้องเคยประสบกับอาการคัน หรือรู้สึกระคายเคืองเล็ก ๆ น้อย ๆ บริเวณช่องคลอด (Intimate area) สักครั้ง แล้วรู้กันไหมคะ ว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไร และเป็นปัญหารุนแรงหรือไม่ ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ