JILGYUNGYI ARTICLE

บทความดีๆ ที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้สาวจิลยอง

มีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือนจะทำให้ตั้งครรภ์ได้หรือไม่ ?

1 ตุลาคม 2562

มีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือนจะทำให้ท้องหรือไม่ ? เชื่อว่าคำถามนี้คงเป็นคำถามที่อยู่ในใจของหลาย ๆ คน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เดี๋ยววันนี้เราจะมาทำความเข้าใจและหาคำตอบไปพร้อมกันนะคะ

บางคนอาจเคยได้ยินว่า “ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ หากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือน และยังเป็นการคุมกำเนิดได้ดีอีกด้วย” ซึ่งนั่น…ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดซะทีเดียวนะคะ

 

ทำความเข้าใจเรื่องการตั้งครรภ์?

ปกติแล้วผู้หญิงจะสามารถตั้งครรภ์ หรือท้องได้ ก็ต่อเมื่อมีเพศสัมพันธ์ (Sexual Intercourse) และเกิดการผสมกันระหว่างอสุจิ (Sperm) ของผู้ชาย และไข่ (Egg) ที่ถูกปล่อยออกมาจากรังไข่ (Ovary) ของผู้หญิง ซึ่งจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 12-14 ชั่วโมง ในขณะที่อสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 3 วัน

รอบเดือน (Period) หรือ ประจำเดือน (Menstruation) ทั่วไปของผู้หญิงจะมีช่วงระยะเวลาประมาณ 28 วัน โดยเริ่มนับวันที่ 1 จากวันแรกของของการมีประจำเดือน และจะเกิดการตกไข่ (Ovalution) ประมาณวันที่ 14

นั่นหมายความว่า การตกไข่ จะเกิดขึ้นหลังจากรังไข่ปล่อยไข่ออกมา เพื่อรอรับการผสม (Fertilization) หากมีอสุจิที่ยังมีชีวิตอยู่ภายในมดลูก (Uterus) เข้าไปผสม ก็สามารถเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นได้

วันตกไข่ของผู้หญิงแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับช่วงระยะเวลาของรอบเดือน บางคนมีรอบเดือนยาวนาน 35 วัน การตกไข่จะเกิดขึ้นประมาณวันที่ 21 หรือ บางคนมีรอบเดือนสั้นเพียง 21 วัน  การตกไข่ก็จะเกิดขึ้นประมาณวันที่ 7

 

ผู้หญิงมีประจำเดือนมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ เพราะอะไร ?

ความเข้าใจผิดที่ว่า ช่องคลอด (Vagina) หลั่งเลือดออกมาเป็นเพียงแค่สัญญาณเริ่มต้นของรอบเดือน แต่รู้ไหมคะว่า สิ่งนั้นอาจเกิดขึ้นพร้อมกับการตกไข่ เมื่อร่างกายของคุณอยู่ในช่วงสมบูรณ์มากที่สุด การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในช่วงนี้ เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้มากเช่นกันนะคะ

 

สำหรับผู้หญิงทั่วไป จะมีรอบการตกไข่ (Ovulation cycle) ประมาณ 28-30 วัน ซึ่งหมายความว่า หากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือน ไข่ก็จะไม่ตก และจะตกก็ต่อเมื่อผ่านไปหลายวัน

 

แต่ในกรณีที่รอบเดือน และรอบการตกไข่มีช่วงระยะเวาลาไม่เท่ากัน จะต้องพิจารณาถึงความสามารถในการมีชีวิตของอสุจิ ซึ่งสามารถอาศัยอยู่ในมดลูกของผู้หญิงได้นานถึง 72 ชั่วโมง หลังการหลั่ง (Ejaculation) และหากมีเพศสัมพันธ์ช่วงวันท้าย ๆ ของประจำเดือน จะทำให้

อสุจิมีโอกาสอยู่ได้ถึงวันที่ไข่ตกอีกครั้ง และเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ โดยเฉพาะกรณีมีรอบเดือนสั้น เช่น ช่วงระยะเวลารอบเดือน 21 วัน จะเกิดการตกไข่เร็วขึ้น และทำให้อสุจิมีโอกาสอยู่ได้ถึงวันที่ไข่ตกได้มากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นโอกาสในการตั้งครรภ์ก็จะมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย

 

 

การนับรอบเดือน จะช่วยให้คุณรู้วันตกไข่ และคำนวณวันที่จะกลับมามีประจำเดือนอีกครั้งเพื่อเช็คความผิดปกติของร่างกาย หรือหากต้องการวางแผนการตั้งครรภ์ คุณก็จะสามารถวางแผนล่วงหน้าได้หลาย ๆ เดือน และมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากขึ้นด้วยนะคะ

แต่หากไม่ประสงค์ให้เกิดการตั้งครรภ์ สิ่งสำคัญคือต้องป้องกันทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ และรวมถึงการคุมกำเนิด (Contraception) จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัย (Condom) หรือ ทานยาคุมกำเนิด (Birth control pills) ควบคู่กัน

 

ยาคุมกำเนิด ไม่สามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually transmitted) เช่น โรคเริม (Herpes), โรคหนองในแท้ (Gonorrhea) หรือ การติดเชื้อคลาไมเดีย (Chlamydia) เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและผู้อื่น อย่าลืมสวมถุงยางอนามัยกันด้วยนะคะ

Share บทความ :

ผลิตภัณฑ์ที่จิลยองแนะนำ

ดูผลิตภัณฑ์จิลยองทั้งหมด

บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ

ตกขาวคืออะไร มีสาเหตุจากอะไร วันนี้เรามีคำตอบ
สาว ๆ หลายคนอาจรู้สึกกังวล เมื่อของเหลวสีขาว หรือ ตกขาวเประเปื้อนกางเกงชั้นใน เพราะเข้าใจมาโดยตลอดว่า ตกขาวคือสิ่งผิดปกติ ซึ่งความจริงแล้ว ตกขาวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของร่างกาย
วิธีรักษาความสมดุลของช่องคลอด
เมื่อทราบความสำคัญของความสมดุล หรือ pH Balance ของช่องคลอดกันแล้ว สิ่งที่ผู้หญิงอย่างเราควรรู้ต่อไป คือ วิธีรักษาความสมดุลนั้นให้คงอยู่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีและความแข็งแรงของช่องคลอด
โรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Vaginosis)
โรคช่องคลอดอักแสบจากเชื้อแบคทีเรีย หรือ Bacterial Vaginosis เป็นภาวะที่เกิดจากเชื้อประจำถิ่น หรือ Normal Flora ที่อาศัยอยู่ในช่องคลอด (Vagina) เสียสมดุลจากการถูกแทนที่ด้วยแบคทีเรียชนิดอื่นที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ